บริษัทฯ ดำเนินธุรกิจด้วยความเป็นธรรม โดยยึดมั่นในวัฒนธรรมที่ได้ถือปฏิบัติ ภายใต้กรอบของ จรรยาบรรณที่ได้มีการพัฒนาให้เหมาะสมกับการเปลี่ยนแปลงทางเศรษฐกิจ และสังคม ด้วยความรับผิดชอบ ต่อผู้มีส่วนได้เสียทุกกลุ่ม ซึ่งผลจากการดำเนินการดังกล่าว ทำให้บริษัทฯได้รับผลการประเมินระดับ “ดีเลิศ” (Excellent) 7 ปีต่อเนื่อง (พ.ศ. 2559 – 2565) จากการประเมินการกำกับดูแลกิจการบริษัท จดทะเบียนไทย โดยตลาดหลักทรัพย์ แห่งประเทศไทย
คณะกรรมการบริษัทกำหนดให้นโยบายการกำกับดูแลกิจการที่ดีเป็นส่วนหนึ่งของนโยบายบริษัทฯ และ ประกาศใช้ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2547 ซึ่งในแต่ละปีที่ผ่านมาก็ได้มีการพัฒนาและปรับปรุงนโยบายการกำกับดูแล กิจการที่ดีตามความเหมาะสม ต่อมาคณะกรรมการบริษัท ได้แต่งตั้งคณะกรรมการกำกับดูแลกิจการที่ดีในปี พ.ศ. 2555 โดยมอบหมายให้คณะกรรมการกำกับดูแล กิจการที่ดี ปฏิบัติงานร่วมกับคณะทำงานการกำกับ ดูแลกิจการที่ดี ซึ่งแต่งตั้งโดยคณะกรรมการกำกับดูแลกิจการที่ดีในปี พ.ศ. 2555 เพื่อทำหน้าที่ติดตาม ประเมินผล และปรับปรุงนโยบายการกำกับดูแลกิจการที่ดีของบริษัทฯ ให้ทันสมัย
เหมาะสมกับสภาวการณ์ทางเศรษฐกิจและสังคมที่มีการเปลี่ยนแปลงภายใต้กฎหมายที่เกี่ยวข้อง ตลอดจน สอดคล้องกับหลักการกำกับดูแลกิจการที่ดีของบริษัทจดทะเบียนตามที่ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย และ หน่วยงานที่กำกับดูแลกำหนด
บริษัทฯ มีความมุ่งมั่นในการผลิตสินค้าที่มีคุณภาพ ปลอดภัยต่อผู้บริโภค โดยคำนึงถึงความรับผิดชอบและผลกระทบต่อชุมชนและสิ่งแวดล้อม ผู้มีส่วนเกี่ยวข้องและสังคมโดยรวมใน ด้านต่างๆ ที่เกิดขึ้นจากการประกอบกิจการของบริษัทฯ และยึดหลักการดำเนินธุรกิจที่โปร่งใส ตรวจสอบได้ มีจริยธรรม เคารพหลักสิทธิมนุษยชน และผลประโยชน์ของผู้มีส่วนได้เสีย รวมถึง การปฏิบัติตามกฎหมาย ข้อกำหนดอื่นๆ และแนวทางปฏิบัติสากลที่เกี่ยวข้อง รวมทั้งมุ่งมั่นพัฒนา ปรับปรุง เพื่อสร้างรากฐานของความรับผิดชอบต่อสังคม ควบคู่ไปกับการดำเนินธุรกิจที่ เติบโตอย่างยั่งยืน
บริหารจัดการด้านสิ่งแวดล้อมอย่างเป็นระบบตลอดห่วงโซ่อุปทาน ขับเคลื่อน ติดตามและประเมินผล เพื่อการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง และลดผลกระทบ ต่อสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืน
ส่งเสริมและปลูกฝังด้านความปลอดภัยให้เป็นวัฒนธรรมองค์กรให้แก่ผู้มีส่วนได้เสีย เพื่อยกระดับคุณภาพการทำงานและการใช้ชีวิตอย่างยั่งยืน
มุ่งมั่นดำเนินธุรกิจโดยยึดหลักบรรษัทภิบาล มีความโปร่งใส เป็นธรรมและตรวจสอบได้ ภายใต้หลักการกำกับดูแลกิจการที่ดี
ควบคู่ไปกับการส่งมอบผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพเพื่อยกระดับคุณภาพการใช้ชีวิตอย่างยั่งยืน
หมวดที่ 1 บททั่วไป
ข้อ 1. ข้อบังคับนี้เรียกว่าข้อบังคับของ บริษัท ศรีไทยซุปเปอร์แวร์ จำกัด (มหาชน)
ข้อ 2. คำว่า “บริษัท” ในข้อบังคับนี้ หมายถึง บริษัท ศรีไทยซุปเปอร์แวร์ จำกัด (มหาชน)
ข้อ 3. ข้อความอื่นที่มิได้กล่าวไว้ในข้อบังคับนี้ให้ถือและบังคับตามบทบัญญัติแห่งกฎหมายว่าด้วยบริษัทมหาชนจำกัดทุกประการ
หมวดที่ 2 การออกหุ้น
ข้อ 4. หุ้นของบริษัทเป็นหุ้นสามัญ มีมูลค่าหุ้นเท่ากันเว้นแต่ข้อบังคับนี้จะกำหนดไว้เป็นอย่างอื่น หุ้นสามัญของบริษัทย่อมโอนกันได้อย่างเสรีโดยไม่มีข้อจำกัด แต่ทั้งนี้คนต่างด้าวมีสิทธิถือหุ้นสามัญในบริษัทได้ไม่เกินกว่าร้อยละสี่สิบห้าของหุ้นสามัญที่ได้ออกจำหน่ายแล้วทั้งหมด
ข้อ 5. ใบหุ้นของบริษัทนี้เป็นชนิดระบุชื่อผู้ถือหุ้น และต้องมีกรรมการอย่างน้อยหนึ่งคนลงลายมือชื่อ
ข้อ 6. บริษัทจะออกใบหุ้นให้แก่ผู้ถือภายในสองเดือน นับแต่วันที่นายทะเบียนรับจดทะเบียนบริษัท หรือนับแต่วันที่ได้รับชำระเงินค่าหุ้นครบ กรณีจำหน่ายหุ้นที่ออกใหม่ภายหลังจดทะเบียนบริษัท
ข้อ 7. ใบหุ้นฉบับใดสูญหาย ลบเลือน หรือชำรุดในสาระสำคัญ ให้คณะกรรมการบริษัทออกใบหุ้นแก่ผู้ถือหุ้นใหม่ภายใน 14 วัน นับแต่วันได้รับคำขอโดยให้ผู้ถือหุ้นชำระค่าธรรมเนียมการออกใบแทนใบหุ้นฉบับละ 5 บาท
ข้อ 8.บริษัทจะเป็นเจ้าของหุ้นหรือรับจำนำหุ้นของตนเองมิได้
ความในวรรคก่อน มิให้นำมาใช้บังคับในกรณีดังต่อไปนี้ คือ
(1) บริษัทอาจซื้อหุ้นคืนจากผู้ถือหุ้นที่ออกเสียงไม่เห็นด้วยกับมติของที่ประชุมผู้ถือหุ้น ซึ่งแก้ไขข้อบังคับของบริษัทเกี่ยวกับสิทธิในการออกเสียงลงคะแนนและสิทธิในการรับเงินปันผล ซึ่งผู้ถือหุ้นเห็นว่าตนไม่ได้รับความเป็นธรรม หรือ
(2) บริษัทอาจซื้อหุ้นคืนเพื่อบริหารทางการเงิน เมื่อบริษัทมีกำไรสะสมและมีสภาพคล่องส่วนเกิน และการซื้อหุ้นคืนนั้นไม่เป็นเหตุให้บริษัทประสบปัญหาทางการเงิน
หุ้นที่บริษัทซื้อคืนและถืออยู่ตามความในข้อนี้ จะไม่นับเป็นองค์ประชุมในการประชุมผู้ถือหุ้น รวมทั้งไม่มีสิทธิในการออกเสียง และไม่มีสิทธิในการรับเงินปันผลด้วยและจะต้องจำหน่ายออกไปภายในเวลาที่กฎหมายกำหนด ถ้าไม่จำหน่ายหรือจำหน่ายไม่หมดภายในเวลาที่กำหนด ให้บริษัทลดทุนที่ชำระแล้วโดยวิธีตัดหุ้นจดทะเบียนเท่าส่วนที่จำหน่ายไม่ได้ออก
การซื้อหุ้นคืน การจำหน่ายหุ้น และการตัดหุ้นตามความในข้อนี้ ให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์และวิธีการที่กำหนดในกฎหมาย
ในการซื้อหุ้นของบริษัทคืน จะต้องได้รับความเห็นชอบจากผู้ถือหุ้น ยกเว้นการซื้อหุ้นดังกล่าวมีจำนวนไม่เกินกว่าร้อยละ 10 ของทุนชำระแล้ว ให้เป็นอำนาจของคณะกรรมการของบริษัทในการอนุมัติการซื้อหุ้นดังกล่าว
หมวดที่ 3 การโอนหุ้น
ข้อ 9. หุ้นของบริษัทย่อมโอนได้โดยไม่มีข้อจำกัด เว้นแต่การโอนหุ้นนั้น
(1) จะทำให้บริษัทเสียสิทธิ และผลประโยชน์ที่บริษัทจะพึงได้รับตามกฎหมาย หรือ
(2) เป็นเหตุให้มีคนต่างด้าวถือหุ้นอยู่ในบริษัทเกินกว่าร้อยละสี่สิบห้าของทุนทั้งหมด
ข้อ 10. การโอนหุ้นย่อมสมบูรณ์ เมื่อผู้โอนได้สลักหลังใบหุ้น โดยระบุชื่อผู้รับโอนและลงลายมือชื่อของผู้โอนกับผู้รับโอน และส่งมอบใบหุ้นให้แก่ผู้รับโอน
การโอนหุ้นจะใช้ยันบริษัทได้เมื่อบริษัทได้รับคำร้องขอให้ลงทะเบียนโอนหุ้นแล้วและจะใช้ยันกับบุคคลภายนอกได้เมื่อบริษัทได้ลงทะเบียนการโอนหุ้นนั้นแล้ว
เมื่อบริษัทเห็นว่าการโอนหุ้นถูกต้องตามกฎหมาย ให้บริษัทลงทะเบียนการโอนหุ้นภายใน 14 วัน นับแต่วันที่ได้รับคำร้องขอ หากการโอนหุ้นไม่ถูกต้องสมบูรณ์ให้บริษัทแจ้งแก่ผู้ยื่นคำร้องภายใน 7 วัน
หากหุ้นของบริษัทได้รับการจดทะเบียนเป็นหลักทรัพย์จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย การโอนหุ้นให้เป็นไปตามกฎหมายว่าด้วยหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์
สำหรับการโอนหลักทรัพย์อื่น ไม่ว่าจะได้จดทะเบียนเป็นหลักทรัพย์จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยหรือไม่ก็ตาม ให้เป็นไปตามกฎหมายว่าด้วยหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์
ข้อ 11. กรณีผู้รับโอนหุ้นประสงค์จะได้ใบหุ้นใหม่ ให้ร้องขอต่อบริษัทโดยทำเป็นหนังสือลงลายมือชื่อของผู้รับโอนหุ้นและมีพยาน 1 คน ลงลายมือชื่อรับรองพร้อมกับคืนใบหุ้นเดิมให้แก่บริษัท ให้บริษัทลงทะเบียนการโอนหุ้นภายใน 7 วัน และออกใบหุ้นให้ใหม่ภายใน 1 เดือน นับแต่วันได้รับคำร้องขอ
หมวดที่ 4 คณะกรรมการ
ข้อ 12. คณะกรรมการของบริษัทให้มีจำนวนไม่เกินสิบสองคนและไม่น้อยกว่าห้าคน และกรรมการไม่น้อยกว่ากึ่งหนึ่งของจำนวนกรรมการทั้งหมดต้องมีถิ่นที่อยู่ในราชอาณาจักร
กรรมการผู้ซึ่งจะมีอำนาจลงลายมือชื่อแทนบริษัทได้นั้นให้มีกรรมการจำนวนสองคน ลงลายมือชื่อร่วมกันและประทับตราสำคัญของบริษัทด้วย จึงจะมีผลเป็นการผูกพันบริษัท
ให้ที่ประชุมใหญ่ผู้ถือหุ้น หรือที่ประชุมคณะกรรมการเป็นผู้พิจารณากำหนดหรือเปลี่ยนแปลงรายชื่อกรรมการผู้มีอำนาจลงลายมือชื่อแทนบริษัทได้ตามที่เห็นสมควร
ข้อ 13. ให้ที่ประชุมใหญ่ผู้ถือหุ้นเลือกตั้งกรรมการตามหลักเกณฑ์และวิธีการดังต่อไปนี้
(1) ผู้ถือหุ้นคนหนึ่งมีคะแนนเสียงเท่ากับหนึ่งหุ้นต่อหนึ่งเสียง
(2) ผู้ถือหุ้นแต่ละคน จะต้องใช้คะแนนเสียงที่มีอยู่ทั้งหมดตาม (1) เลือกตั้งบุคคลคนเดียวหรือหลายคนเป็นกรรมการก็ได้ แต่จะแบ่งคะแนนเสียงให้แก่ผู้ใดมากน้อยเพียงใดไม่ได้
(3) บุคคลซึ่งได้รับคะแนนเสียงสูงสุดตามลำดับลงมาเป็นผู้ได้รับเลือกตั้งเป็นกรรมการเท่าจำนวนกรรมการที่จะพึงมีหรือจะพึงเลือกตั้งในครั้งนั้น ในกรณีที่บุคคลซึ่งได้รับการเลือกตั้งในลำดับถัดลงมามีคะแนนเสียงเท่ากันเกินจำนวนกรรมการที่จะพึงมีหรือจะพึงเลือกตั้งในครั้งนั้น ให้ผู้เป็นประธานเป็นผู้ออกเสียงชี้ขาด
ข้อ 14. ในการประชุมสามัญประจำปี ให้กรรมการออกจากตำแหน่งหนึ่งในสามเป็นอัตรา ถ้าจำนวนกรรมการที่จะแบ่งออกให้ตรงเป็นสามส่วนไม่ได้ ก็ให้ออกโดยจำนวนใกล้ที่สุดกับส่วนหนึ่งในสาม
กรรมการที่จะออกจากตำแหน่งในปีแรก และปีที่สองภายหลังจดทะเบียนบริษัทนั้น ให้จับฉลากกันว่าผู้ใดจะออก ส่วนปีหลังๆ ต่อไป ให้กรรมการคนที่อยู่ในตำแหน่งนานที่สุดนั้นเป็นผู้ออกจากตำแหน่ง
ข้อ 15. นอกจากการพ้นจากตำแหน่งตามวาระแล้ว อาจต้องพ้นจากตำแหน่งเมื่อ
(1) ตาย
(2) ลาออก
(3) ขาดคุณสมบัติหรือมีลักษณะต้องห้ามตามมาตรา 68 แห่งพระราชบัญญัติบริษัทมหาชนจำกัด พ.ศ. 2535
(4) ที่ประชุมผู้ถือหุ้นลงมติให้ออกตาม ข้อ 18.
(5) ศาลมีคำสั่งให้ออก
ข้อ 16. กรรมการคนใดจะลาออกจากตำแหน่ง ให้ยื่นใบลาออกต่อบริษัท การลาออกให้มีผลนับแต่วันที่ใบลาออกไปถึงบริษัท
กรรมการซึ่งลาออกตามวรรคหนึ่ง จะแจ้งการลาออกของตนให้นายทะเบียนทราบด้วยก็ได้
ข้อ 17. ในกรณีที่ตำแหน่งกรรมการว่างลงเพราะเหตุอื่นนอกจากถึงคราวออกตามวาระ ให้คณะกรรมการเลือกบุคคลซึ่งมีคุณสมบัติและไม่มีลักษณะต้องห้ามตามมาตรา 68 แห่งพระราชบัญญัติบริษัทมหาชนจำกัด พ.ศ. 2535 เข้าเป็นกรรมการแทนในการประชุมคณะกรรมการคราวถัดไป เว้นแต่ วาระของกรรมการจะเหลือน้อยกว่าสองเดือน บุคคลซึ่งเข้าเป็นกรรมการแทนดังกล่าวจะอยู่ในตำแหน่งกรรมการได้เพียงเท่าวาระที่ยังเหลืออยู่ของกรรมการที่ตนแทน
มติของคณะกรรมการตามวรรคหนึ่ง ต้องประกอบด้วยคะแนนเสียงไม่น้อยกว่าสามในสี่ของจำนวนกรรมการที่ยังเหลืออยู่
ข้อ 18. ที่ประชุมผู้ถือหุ้นอาจลงมติให้กรรมการคนใดออกจากตำแหน่งก่อนถึงคราวออกตามวาระได้ด้วยคะแนนเสียงไม่น้อยกว่าสามในสี่ของจำนวนผู้ถือหุ้นซึ่งมาประชุมและมีสิทธิออกเสียงและมีหุ้นนับรวมกันได้ไม่น้อยกว่ากึ่งหนึ่งของจำนวนหุ้นที่ถือโดยผู้ถือหุ้นที่มาประชุมและมีสิทธิออกเสียง
ข้อ 19. กรรมการจะเป็นผู้ถือหุ้นของบริษัทด้วยหรือไม่ก็ได้
ข้อ 20. ให้คณะกรรมการเลือกกรรมการคนหนึ่งเป็นประธานกรรมการ
ในกรณีที่คณะกรรมการพิจารณาเห็นสมควรจะเลือกกรรมการคนหนึ่งหรือหลายคนเป็นรองประธานกรรมการก็ได้ รองประธานกรรมการมีหน้าที่ตามข้อบังคับในกิจการซึ่งประธานกรรมการมอบหมาย
ข้อ 21. ในการประชุมคณะกรรมการ ต้องมีกรรมการมาประชุมไม่น้อยกว่ากึ่งหนึ่งของจำนวนกรรมการทั้งหมดจึงจะเป็นองค์ประชุม ในกรณีที่ประธานกรรมการไม่อยู่ในที่ประชุม หรือไม่สามารถปฏิบัติหน้าที่ได้ ถ้ามีรองประธานกรรมการ ก็ให้รองประธานกรรมการเป็นประธาน ถ้าไม่มีรองประธานกรรมการหรือมีแต่ไม่สามารถปฏิบัติหน้าที่ได้ ให้กรรมการซึ่งมาประชุมเลือกกรรมการคนหนึ่งเป็นประธานในที่ประชุม
การวินิจฉัยชี้ขาดของที่ประชุมให้ถือเสียงข้างมาก
กรรมการคนหนึ่งมีเสียงหนึ่งในการลงคะแนน เว้นแต่กรรมการซึ่งมีส่วนได้เสียในเรื่องใด ไม่มีสิทธิออกเสียงลงคะแนนในเรื่องนั้น ถ้าคะแนนเสียงเท่ากันให้ประธานในที่ประชุมออกเสียงเพิ่มขึ้นอีกเสียงหนึ่งเป็นเสียงชี้ขาด
ข้อ 22. ในการเรียกประชุมคณะกรรมการ ให้ประธานกรรมการหรือผู้ซึ่งได้รับมอบหมายส่งหนังสือนัดประชุมไปยังกรรมการไม่น้อยกว่าเจ็ดวันก่อนวันประชุม เว้นแต่ในกรณีจำเป็นรีบด่วนเพื่อรักษาสิทธิหรือประโยชน์ของบริษัท จะแจ้งการนัดประชุมโดยวิธีอื่น และกำหนดวันประชุมให้เร็วกว่านั้นก็ได้
ข้อ 23. กรรมการต้องปฏิบัติหน้าที่ให้เป็นไปตามกฎหมาย วัตถุประสงค์ และข้อบังคับของบริษัท ตลอดจนมติที่ประชุมผู้ถือหุ้น
ข้อ 24. ห้ามมิให้กรรมการประกอบกิจการเข้าเป็นหุ้นส่วนหรือเข้าเป็นผู้ถือหุ้นในนิติบุคคลอื่นที่มีสภาพอย่างเดียวกันและเป็นการแข่งขันกับกิจการของบริษัท เว้นแต่จะแจ้งให้ที่ประชุมผู้ถือหุ้นทราบก่อนที่จะมีมติแต่งตั้ง
ข้อ 25. กรรมการต้องแจ้งให้บริษัททราบโดยไม่ชักช้า หากมีส่วนได้เสียในสัญญาที่ทำกับบริษัทหรือถือหุ้นหรือหุ้นกู้เพิ่มขึ้นหรือลดลงในบริษัทหรือบริษัทในเครือ
ข้อ 26. คณะกรรมการของบริษัทต้องประชุมอย่างน้อยสามเดือนต่อครั้ง
ข้อ 26/1. ในกรณีที่บริษัทหรือบริษัทย่อยตกลงเข้าทำรายการที่เกี่ยวโยงกัน ตามความหมายที่กำหนดตามประกาศตลาดหลักทรัพย์ที่ใช้บังคับกับการทำรายการที่เกี่ยวโยงกันของบริษัทจดทะเบียน ให้บริษัทปฏิบัติตามหลักเกณฑ์ และวิธีการที่ประกาศดังกล่าวกำหนดไว้ในเรื่องนั้นๆ ด้วย
หมวดที่ 5 การประชุมผู้ถือหุ้น
ข้อ 27.คณะกรรมการต้องจัดให้มีการประชุมผู้ถือหุ้น เป็นการประชุมสามัญประจำปีภายในสี่เดือนนับแต่วันสิ้นสุดของรอบปีบัญชีของบริษัท
การประชุมผู้ถือหุ้นคราวอื่นนอกจากที่กล่าวแล้ว ให้เรียกว่าการประชุมวิสามัญ คณะกรรมการจะเรียกประชุมผู้ถือหุ้นเป็นการประชุมวิสามัญเมื่อใดก็ได้สุดแต่จะเห็นสมควร หรือผู้ถือหุ้นรวมกันนับจำนวนหุ้นได้ไม่น้อยกว่าหนึ่งในห้าของจำนวนหุ้นที่จำหน่ายได้ทั้งหมด หรือผู้ถือหุ้นไม่น้อยกว่ายี่สิบห้าคนซึ่งมีหุ้นนับรวมกันได้ไม่น้อยกว่าหนึ่งในสิบของจำนวนหุ้นที่จำหน่ายได้ทั้งหมดจะเข้าชื่อกันทำหนังสือขอให้คณะกรรมการเรียกประชุมผู้ถือหุ้นเป็นการประชุมวิสามัญเมื่อใดก็ได้ แต่ต้องระบุเหตุผลในการที่ขอให้เรียกประชุมไว้ให้ชัดเจนในหนังสือดังกล่าวด้วย ในกรณีเช่นนี้ คณะกรรมการต้องจัดให้มีการประชุมผู้ถือหุ้นภายในหนึ่งเดือนนับแต่วันได้รับหนังสือจากผู้ถือหุ้น
ข้อ 28. ในการเรียกประชุมผู้ถือหุ้น ให้คณะกรรมการจัดทำเป็นหนังสือนัดประชุม ระบุสถานที่ วัน เวลา ระเบียบวาระการประชุม และเรื่องที่จะเสนอต่อที่ประชุม พร้อมด้วยรายละเอียดตามสมควร โดยระบุให้ชัดเจนว่าเป็นเรื่องที่จะเสนอเพื่อทราบ เพื่ออนุมัติ หรือเพื่อพิจารณาแล้วแต่กรณี รวมทั้งความเห็นของคณะกรรมการในเรื่องดังกล่าวด้วย และจัดส่งให้ผู้ถือหุ้นและนายทะเบียนทราบไม่น้อยกว่าเจ็ดวันก่อนวันประชุม และโฆษณาคำบอกกล่าวนัดประชุมในหนังสือพิมพ์ติดต่อกัน 3 วันก่อนวันประชุมไม่น้อยกว่า 3 วันด้วย
ข้อ 29. ในการประชุมผู้ถือหุ้นต้องมีผู้ถือหุ้นและผู้รับมอบฉันทะจากผู้ถือหุ้น (ถ้ามี) มาประชุมไม่น้อยกว่ายี่สิบห้าคน หรือไม่น้อยกว่ากึ่งหนึ่งของจำนวนผู้ถือหุ้นทั้งหมด และต้องมีหุ้นนับรวมกันได้ไม่น้อยกว่าหนึ่งในสามของจำนวนหุ้นที่จำหน่ายได้ทั้งหมดจึงจะเป็นองค์ประชุม
ในกรณีที่ปรากฏว่าการประชุมผู้ถือหุ้นครั้งใดเมื่อล่วงเวลานัดไปแล้วถึงหนึ่งชั่วโมง จำนวนผู้ถือหุ้นซึ่งมาเข้าร่วมประชุมไม่ครบองค์ประชุมตามที่กำหนดไว้ หากว่าการประชุมผู้ถือหุ้นได้เรียกนัดเพราะผู้ถือหุ้นร้องขอ การประชุมเป็นอันระงับไป ถ้าการประชุมผู้ถือหุ้นนั้นมิใช่เป็นการเรียกประชุมเพราะผู้ถือหุ้นร้องขอ ให้นัดประชุมใหม่ และให้ส่งหนังสือนัดประชุมไปยังผู้ถือหุ้นไม่น้อยกว่าเจ็ดวันก่อนวันประชุม ในการประชุมครั้งหลังนี้ไม่บังคับว่าจะต้องครบองค์ประชุม
ข้อ 30. มติที่ประชุมผู้ถือหุ้นนั้นให้ประกอบด้วยคะแนนเสียงดังต่อไปนี้
(1) ในกรณีปกติ ให้ถือคะแนนเสียงข้างมากผู้ถือหุ้นซึ่งมาประชุมและออกเสียงลงคะแนน ถ้ามีคะแนนเสียงเท่ากัน ให้ประธานในที่ประชุมออกเสียงเพิ่มขึ้นอีกเสียงหนึ่งเป็นเสียงชี้ขาด
(2) ในกรณีดังต่อไปนี้ ให้ถือคะแนนเสียงไม่น้อยกว่าสามในสี่ของจำนวนเสียงทั้งหมดของผู้ถือหุ้นซึ่งมาประชุมและมีสิทธิออกเสียงลงคะแนน
(ก) การขายหรือโอนกิจการของบริษัททั้งหมดหรือบางส่วนที่สำคัญให้แก่บุคคลอื่น
(ข) การซื้อหรือรับโอนกิจการของบริษัทอื่นหรือบริษัทเอกชนมาเป็นของบริษัท
(ค) การทำ แก้ไข หรือเลิกสัญญาเกี่ยวกับการให้เช่ากิจการของบริษัททั้งหมด หรือบางส่วนที่สำคัญ การมอบหมายให้บุคคลอื่นเข้าจัดการธุรกิจของบริษัท หรือการรวมกิจการกับบุคคลอื่นโดยมีวัตถุประสงค์จะแบ่งกำไรขาดทุนกัน
ข้อ 31. กิจการอันที่ประชุมสามัญประจำปีพึงกระทำมีดังนี้
(1) พิจารณารายงานของคณะกรรมการที่เสนอต่อที่ประชุมแสดงว่าในรอบปีที่ผ่านมากิจการของบริษัทได้จัดการไป
(2) พิจารณาและอนุมัติงบดุล
(3) พิจารณาจัดสรรเงินกำไร
(4) เลือกตั้งกรรมการแทนกรรมการที่ออกตามวาระ
(5) แต่งตั้งผู้สอบบัญชี
(6) กิจการอื่นๆ
หมวดที่ 6 การบัญชี การเงิน และการสอบบัญชี
ข้อ 32. รอบปีบัญชีของบริษัทเริ่มต้นในวันที่ 1 มกราคม และสิ้นสุดลงในวันที่ 31 ธันวาคมของทุกปี
ข้อ 33. บริษัทต้องจัดให้มีการทำ และเก็บรักษาบัญชี ตลอดจนการสอบบัญชีตามกฎหมายว่าด้วยการนั้น และต้องจัดทำงบดุลและบัญชีกำไรขาดทุนอย่างน้อยครั้งหนึ่งในรอบ 12 เดือน อันเป็นรอบปีบัญชีของบริษัท
ข้อ 34. คณะกรรมการต้องจัดให้มีการทำงบดุลและบัญชีกำไรขาดทุน ณ วันสิ้นสุดของรอบปีบัญชีของบริษัทเสนอต่อที่ประชุมผู้ถือหุ้นในการประชุมสามัญประจำปี เพื่อพิจารณาอนุมัติงบดุลและบัญชีกำไรขาดทุนนี้ คณะกรรมการต้องจัดให้ผู้สอบบัญชีตรวจสอบให้เสร็จก่อนนำเสนอต่อที่ประชุมผู้ถือหุ้น
ข้อ 35. คณะกรรมการต้องจัดส่งเอกสารดังต่อไปนี้ให้ผู้ถือหุ้นพร้อมกับหนังสือนัดประชุมสามัญประจำปี
(1) สำเนางบดุลและบัญชีกำไรขาดทุนที่ผู้สอบบัญชีตรวจสอบแล้ว พร้อมกับรายงานการตรวจสอบบัญชีของผู้สอบบัญชี
(2) รายงานประจำปีของคณะกรรมการ
ข้อ 36. ห้ามมิให้แบ่งเงินปันผลจากเงินประเภทอื่นนอกจากเงินกำไร ในกรณีที่บริษัทยังมียอดขาดทุนสะสมอยู่ ห้ามมิให้แบ่งเงินปันผล
เงินปันผลให้แบ่งตามจำนวนหุ้น หุ้นละเท่าๆ กัน
คณะกรรมการอาจจ่ายเงินปันผลระหว่างกาลให้แก่ผู้ถือหุ้นได้เป็นครั้งคราวในเมื่อเห็นว่าบริษัทมีผลกำไรสมควรพอที่จะทำเช่นนั้นและรายงานให้ที่ประชุมผู้ถือหุ้นทราบในการประชุมคราวต่อไป
การจ่ายเงินปันผลให้กระทำภายในหนึ่งเดือนนับแต่วันที่ที่ประชุมผู้ถือหุ้นหรือคณะกรรมการลงมติแล้วแต่กรณี ทั้งนี้ให้แจ้งเป็นหนังสือไปยังผู้ถือหุ้นและให้โฆษณาคำบอกกล่าวการจ่ายเงินปันผลนั้นในหนังสือพิมพ์ด้วย
ข้อ 37. บริษัทต้องจัดสรรเงินกำไรสุทธิประจำปีให้เป็นไปตามพระราชบัญญัติบริษัทมหาชนจำกัด
ข้อ 38. ผู้สอบบัญชีต้องไม่เป็นกรรมการ พนักงาน ลูกจ้าง หรือผู้ดำรงตำแหน่งหน้าที่ใดๆ ของบริษัท
ข้อ 39. ผู้สอบบัญชีมีอำนาจตรวจสอบบัญชี เอกสารและหลักฐานอื่นใดที่เกี่ยวกับรายได้รายจ่าย ตลอดจนทรัพย์สินและหนี้สินของบริษัทในระหว่างเวลาทำการของบริษัท ในการนี้ให้มีอำนาจสอบถามกรรมการ พนักงานลูกจ้าง ผู้ดำรงตำแหน่งหน้าที่ใดๆ ของบริษัทและตัวแทนของบริษัท รวมทั้งให้ชี้แจงข้อเท็จจริง หรือส่งเอกสารหลักฐานเกี่ยวกับการดำเนินกิจการของบริษัทได้
ข้อ 40. ผู้สอบบัญชีมีหน้าที่เข้าร่วมประชุมในการประชุมผู้ถือหุ้นของบริษัททุกครั้งที่มีการพิจารณางบดุล บัญชีกำไรขาดทุนและปัญหาเกี่ยวกับบัญชีของบริษัทเพื่อชี้แจงการตรวจสอบบัญชีต่อผู้ถือหุ้น ให้บริษัทจัดส่งรายงานและเอกสารของบริษัทที่ผู้ถือหุ้นจะพึงได้รับในการประชุมผู้ถือหุ้นครั้งนั้นแก่ผู้สอบบัญชีด้วย
หมวดที่ 7 บทเพิ่มเติม
ข้อ 41. ตราของบริษัทเป็นดังที่ประทับไว้นี้
— รูปตราบริษัท —
ข้อ 42. ข้อบังคับนี้ หากมีที่ซึ่งจำเป็นหรือสมควรจะแก้ไขเปลี่ยนแปลง ก็ให้ที่ประชุมผู้ถือหุ้นพิจารณาจัดการเปลี่ยนแปลงแก้ไขได้ตามกฎหมาย
(1) ทำการผลิตเพื่อขาย ซึ่งภาชนะ ถ้วยชาม ที่ทำจากพลาสติก เมลามีน โลหะ และวัสดุอื่นทุกชนิด เครื่องแก้ว รวมทั้งเครื่องเรือน เฟอร์นิเจอร์ เครื่องใช้ เครื่องตกแต่ง เครื่องครัว เครื่องใช้สำนักงาน และชิ้นส่วนอุปกรณ์ดังกล่าวที่ทำจากวัสดุทุกชนิด ยกเว้นการผลิตเครื่องทอง เครื่องเงิน เครื่องถม และเครื่องทองลงหิน
(2) ทำการผลิตเพื่อขาย ซึ่งเครื่องประดับ เสื้อผ้า กระเป๋า และเครื่องนุ่งห่มสำเร็จรูป ตลอดจนสินค้าอุตสาหกรรมสิ่งทอ เช่น พรม ฝ้าย ด้าย ผ้าใยสังเคราะห์ ยกเว้น การผลิตเส้นไหมไทย การทอผ้าไหมไทย หรือการพิมพ์ลวดลายผ้าไหมไทย
(3) ทำการนำเข้า ซื้อ ซึ่งเครื่องจักร เครื่องกล เครื่องมือเครื่องใช้ ชิ้นส่วนอุปกรณ์และอะไหล่ของทรัพย์สินดังกล่าว เพื่อใช้ในการดำเนินธุรกิจของบริษัทตามวัตถุประสงค์ข้อ (1) และ (2) ข้างต้น
(4) ซื้อ จัดหา รับเช่า ให้เช่า เช่าซื้อ ถือกรรมสิทธิ์ ครอบครอง ปรับปรุง ใช้และจัดการโดยประการอื่นซึ่งทรัพย์สินใดๆ ตลอดจนดอกผลของทรัพย์สินนั้น
(5) กู้ยืมเงิน ให้กู้ยืมเงิน ให้สินเชื่อทางการค้า รับรองหนี้ เพื่อประโยชน์ในการดำเนินการตามวัตถุประสงค์ ค้ำประกัน ออก โอน และสลักหลังตั๋วเงินหรือตราสาร
(6) ขาย โอน จำนอง จำนำ แลกเปลี่ยน และจำหน่ายทรัพย์สินโดยประการอื่น
(7) ทำการค้ำประกันบุคคลธรรมดาหรือนิติบุคคลรวมทั้งค้ำประกันบุคคลที่เกี่ยวข้องกับกิจการของบริษัท หรือการดำเนินการของบริษัท ภายใต้กฎหมายว่าด้วยคนเข้าเมือง ภาษีอากร ศุลกากร แรงงาน และกฎหมายอื่นๆ ด้วย โดยมิได้กระทำเป็นการค้า
(8) ทำการติดต่อหน่วยราชการ และเจ้าหน้าที่ เพื่อให้ได้มาหรือจำหน่ายไปซึ่งเอกสิทธิ์ สัญญา สิทธิ กรรมสิทธิ์ ใบอนุญาต สิทธิในเครื่องหมายการค้า อุตสาหกรรมสมบัติ ลิขสิทธิ์ สิทธิบัตร สัมปทาน หรือสิทธิพิเศษใดๆ ซึ่งจำเป็นในการดำเนินกิจการของบริษัท
(9) ทำการยื่นคำขอ ถือใบอนุญาต และการจดทะเบียนใดๆ ซึ่งจำเป็นหรือเป็นประโยชน์ต่อกิจการของบริษัท
(10) บริษัทมีสิทธิออกหุ้นในราคาสูงกว่ามูลค่าหุ้นของหุ้นที่กำหนดไว้
(11) บริษัทมีสิทธิออกหลักทรัพย์ เช่น หุ้นกู้ ตั๋วเงิน ใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้นกู้และหลักทรัพย์ หรือตราสารอื่นใดตามกฎหมายว่าด้วยหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ และ/หรือ ตามกฎหมายอื่นที่เกี่ยวข้อง เพื่อเสนอขายแก่ผู้ถือหุ้น และ/หรือ บุคคลใดๆ และ/หรือ ประชาชนได้
(12) ประกอบธุรกิจแบบขายตรง หรือตลาดแบบตรงตามที่กฎหมายบัญญัติ
(13) ประกอบกิจการค้าอาหารสด อาหารแห้ง อาหารสำเร็จรูป อาหารเสริม เครื่องกระป๋อง เครื่องปรุงรส อาหาร เครื่องดื่ม เบียร์ สุรา และเครื่องบริโภคอื่น
(14) ประกอบกิจการค้าผ้า ผ้านวม ผ้าปูที่นอน ผ้าเช็ดตัว ด้าย เครื่องนุ่งห่ม เสื้อผ้าสำเร็จรูป เครื่องแต่งกาย เครื่องประดับ เครื่องสำอาง เครื่องใช้ หรือเครื่องมือเสริมความงามและเครื่องอุปโภคอื่น
(15) ประกอบกิจการค้าเครื่องมือ เครื่องใช้ในครัวเรือน เครื่องใช้ไฟฟ้า บรรจุภัณฑ์ กล่องใส่อาหาร และชิ้นส่วนอุปกรณ์ต่างๆ
(16) ประกอบกิจการค้าข้าว ผลิตภัณฑ์ข้าว มันสำปะหลัง ผลิตภัณฑ์มันสำปะหลัง ข้าวโพด งา ถั่ว พริกไทย ชา กาแฟ ครีมหรือครีมเทียม ปอ นุ่น ฝ้าย ครั่ง ละหุ่ง ไม้ ยาง ผัก ผลไม้ ของป่า สมุนไพร หนังสัตว์ เขาสัตว์ สัตว์มีชีวิต เนื้อสัตว์ชำแหละ น้ำตาล อาหารสัตว์ และพืชผลทางเกษตร ทุกชนิด
(17) ประกอบกิจการเป็นนายหน้า ตัวแทน ตัวแทนค้าต่างในกิจการและธุรกิจทุกประเภท เว้นแต่ในธุรกิจประกันภัย การหาสมาชิกให้สมาคม และการค้าหลักทรัพย์
(18) ทำการจัดตั้งสำนักงานสาขาหรือแต่งตั้งตัวแทน ทั้งภายในและภายนอกประเทศ เข้าเป็นหุ้นส่วนจำกัดความรับผิดชอบในห้างหุ้นส่วน และเป็นผู้ถือหุ้นในบริษัทจำกัดอื่น
(19) ประกอบกิจการผลิต สร้างสรรค์ เผยแพร่ข้อมูลต่างๆ โฆษณาประชาสัมพันธ์สินค้า รายการส่งเสริมการขาย กิจกรรมต่างๆ ตลอดจนให้มีการทำธุรกรรมทางเว็บไซต์ของบริษัทผ่านเครือข่ายอินเทอร์เน็ต
(20) ประกอบกิจการค้ายารักษาและป้องกันโรคสำหรับคนและสัตว์ เภสัชภัณฑ์ เคมีภัณฑ์ เครื่องเวชภัณฑ์ เครื่องมือเครื่องใช้ทางการแพทย์และเภสัชกรรมทุกชนิด ปุ๋ย ยาปราบศัตรูพืช ยาบำรุงพืชและสัตว์ทุกชนิด เครื่องมือเครื่องใช้ทางวิทยาศาสตร์
(21) ประกอบกิจการค้าทอง นาก เงิน เพชร พลอย และอัญมณีอื่นๆ รวมทั้งวัตถุทำเทียมสิ่งดังกล่าว
(22) ประกอบกิจการออกหนังสือพิมพ์ สิ่งพิมพ์ สิ่งตีพิมพ์ วารสาร เอกสาร และนิตยสารประเภทต่างๆ ทุกชนิด ทั้งภาษาไทยและภาษาต่างประเทศของบริษัท หรือที่เกี่ยวเนื่องกับกิจกรรมของบริษัท หรือผู้จัดจำหน่ายสินค้า สมาชิก ตลอดจนลูกค้าของบริษัท
(23) ประกอบกิจการผลิต ซื้อ ขายส่ง ขายปลีก เครื่องกรองอากาศ อุปกรณ์เครื่องใช้ไฟฟ้า เครื่องนอน อุปกรณ์เครื่องมือสื่อสาร อุปกรณ์เครื่องเขียน อุปกรณ์ประกอบและส่งเสริมการเรียน ผลิตภัณฑ์บำบัดสิ่งแวดล้อม ผลิตภัณฑ์ซ่อมแซมบ้าน อุปกรณ์อุดรอยรั่ว เครื่องมือเครื่องใช้ และอุปกรณ์ในการซ่อมบำรุงภาชนะเครื่องใช้และอาคาร ผลิตภัณฑ์ใช้ในรถยนต์ ผลิตภัณฑ์ประดับยนต์ น้ำมันเครื่อง น้ำมันหล่อลื่น
(24) ประกอบกิจการค้าพลาสติก หรือสิ่งอื่น ซึ่งมีลักษณะคล้ายคลึงกัน ทั้งที่อยู่ในสภาพวัตถุดิบ หรือสำเร็จรูป
(25) ประกอบกิจการค้าอาหารเสริมสำหรับพืช อุปกรณ์ เครื่องมือเครื่องใช้ทางการเกษตร เช่น เครื่องฉีดพ่นอาหารเสริมสำหรับพืช
(26) ประกอบกิจการค้ายางดิบ ยางแผ่น หรือยางชนิดอื่น อันผลิตขึ้นหรือได้มาจากส่วนใดส่วนหนึ่งของต้นยางพารา รวมตลอดถึงยางเทียม สิ่งทำเทียมวัตถุหรือสินค้าดังกล่าวโดยกรรมวิธีทางวิทยาศาสตร์
(27) ประกอบกิจการสั่งเข้ามาจำหน่ายในประเทศ และส่งออกไปจำหน่ายยังต่างประเทศ ซึ่งสินค้าตามที่กำหนดไว้ในวัตถุประสงค์
(28) ประกอบธุรกิจบริการรับเป็นที่ปรึกษาและให้คำแนะนำปัญหาเกี่ยวกับด้านบริหารงาน พาณิชยกรรม อุตสาหกรรม รวมทั้งปัญหาการผลิต การตลาด และจัดจำหน่าย
(29) ประกอบกิจการบริการจัดเก็บ รวบรวม จัดทำ จัดพิมพ์และเผยแพร่สถิติ ข้อมูล ในทางเกษตรกรรม อุตสาหกรรม พาณิชยกรรม การเงิน การตลาด รวมทั้งวิเคราะห์และประเมินผลในการดำเนินธุรกิจ
(30) ประกอบธุรกิจบริการรับเป็นผู้จัดการและดูแลผลประโยชน์ เก็บผลประโยชน์ และจัดการทรัพย์สินให้บุคคลอื่น
(31) ประกอบกิจการประมูลเพื่อขายสินค้าและรับจ้างทำของ ตามวัตถุประสงค์ทั้งหมดให้แก่บุคคล คณะบุคคล นิติบุคคล ส่วนราชการและองค์การของรัฐ
(32) ประกอบกิจการจำหน่าย ขายปลีก ขายส่งสินค้าและผลิตภัณฑ์ทุกชนิดตามวัตถุประสงค์ของบริษัท โดยขายโดยตรงให้แก่ลูกค้าและผู้บริโภค จำหน่ายผ่านแค็ตตาล็อก จำหน่ายผ่านร้านค้าของบริษัท จำหน่ายผ่านระบบอินเทอร์เน็ต หรือลักษณะธุรกรรมอิเล็กทรอนิกส์ จำหน่ายผ่านตัวแทนจำหน่าย และเว็บไซต์ของตัวแทนจำหน่ายหรือคู่ค้าทางธุรกิจ
(33) ประกอบกิจการสำนักงานใหญ่ข้ามประเทศ รวมถึงการให้บริการด้านการบริหารหรือด้านเทคนิค การให้บริการสนับสนุน หรือการบริหารเงิน แก่วิสาหกิจในเครือหรือสาขาของตน ไม่ว่าวิสาหกิจในเครือหรือสาขานั้นจะตั้งอยู่ในประเทศไทยหรือในต่างประเทศ และประกอบกิจการบริษัทการค้าระหว่างประเทศตามขอบเขตของสำนักงานใหญ่ข้ามประเทศ
(34) ประกอบกิจการให้บริการสนับสนุน รวมถึงการให้บริการสนับสนุนในเรื่อง การบริหารงานทั่วไป การวางแผนทางธุรกิจ การประสานงานทางธุรกิจ การจัดหาวัตถุดิบและชิ้นส่วน การวิจัยและพัฒนาผลิตภัณฑ์ การสนับสนุนด้านเทคนิค การส่งเสริมด้านการตลาดและการขาย การบริหารด้านงานบุคคลและการฝึกอบรม การให้คำปรึกษาด้านการเงิน การวิเคราะห์และวิจัยด้านเศรษฐกิจและการลงทุน หรือการจัดการและควบคุมสินเชื่อ และการให้บริการสนับสนุนอื่นๆ
(35) ประกอบกิจการบริษัทการค้าระหว่างประเทศ รวมถึงการจัดซื้อและขายสินค้า วัตถุดิบ และชิ้นส่วน หรือให้บริการเกี่ยวกับการค้าระหว่างประเทศแก่นิติบุคคลที่ตั้งขึ้นตามกฎหมายต่างประเทศ ซึ่งได้แก่ การจัดหาสินค้าและวัตถุดิบ การเก็บรักษาสินค้าและวัตถุดิบระหว่างรอการส่งมอบ การจัดทำหีบห่อและบรรจุภัณฑ์ การขนส่งสินค้า หรือการให้คำปรึกษาแนะนำและบริการด้านเทคนิคและฝึกอบรมเกี่ยวกับสินค้า
ขอรับรองว่าบริษัทนี้ ได้จดทะเบียน เป็นนิติบุคคลตามกฎหมายว่าด้วยบริษัทมหาชนจำกัดเมื่อวันที่ 13 ธันวาคม 2536 ทะเบียนเลขที่ 0107536001516
ปรากฏข้อความในรายการตามเอกสารทะเบียนนิติบุคคล ณ วันออกหนังสือนี้ ดังนี้
1. ชื่อบริษัท บริษัท ศรีไทยซุปเปอร์แวร์ จำกัด (มหาชน)
2. กรรมการของบริษัทมี 9 คน ตามรายชื่อดังต่อไปนี้
1. นายสนั่น อังอุบลกุล
2. นายณพล เลิศสุมิตรกุล
3. นายเอ้งฮัก นนทิการ
4. นายสุชาติ บุญบรรเจิดศรี
5. นางสิริพร ไศละสูต
6. นายศุภโชค เลี่ยมแก้ว
7. นายไชยวัฒน์ กุลภัทรวาณิชย์
3. ชื่อและจำนวนกรรมการซึ่งมีอำนาจลงลายมือชื่อแทนบริษัทคือ
นายสนั่น อังอุบลกุล
นายณพล เลิศสุมิตรกุล
นายไชยวัฒน์ กุลภัทรวาณิชย์
สองในสามคนนี้ลงลายมือชื่อร่วมกัน และประทับตราสำคัญของบริษัท
ข้อจำกัดอำนาจของกรรมการ ไม่มี/
4. ทุน ทุนจดทะเบียน 2,709,904,800.00 บาท /
(สองพันเจ็ดร้อยเก้าล้านเก้าแสนสี่พันแปดร้อยบาทถ้วน)
ทุนชำระแล้วเป็นเงิน 2,709,904,800.00 บาท /
(สองพันเจ็ดร้อยเก้าล้านเก้าแสนสี่พันแปดร้อยบาทถ้วน)
5. สำนักงานแห่งใหญ่ ตั้งอยู่เลขที่ 15 ซอยสุขสวัสดิ์ 36 ถนนสุขสวัสดิ์ แขวงบางปะกอก
เขตราษฎร์บูรณะ กรุงเทพมหานคร/
6. วัตถุที่ประสงค์ของบริษัทมหาชน จำกัดมี 35 ข้อ ดังปรากฏในสำเนาเอกสารแนบท้ายหนังสือรับรองนี้ จำนวน 4 แผ่น โดยมีลายมือชื่อนายทะเบียนซึ่งรับรองเอกสารและประทับตรากรมพัฒนาธุรกิจการค้าเป็นสำคัญ
บริษัท ศรีไทยซุปเปอร์แวร์ จำกัด (มหาชน)
0107536001516
หนังสือบริคณห์สนธิของบริษัท มีรายการดังต่อไปนี้
ข้อ 1
ชื่อบริษัท “บริษัท ศรีไทยซุปเปอร์แวร์ จำกัด (มหาชน)” และมีชื่อเป็นภาษาอังกฤษว่า “SRITHAI SUPERWARE PUBLIC COMPANY LIMITED”
ข้อ 2
บริษัทมีความประสงค์ที่จะเสนอขายหุ้นต่อประชาชน
ข้อ 3
วัตถุประสงค์ของบริษัท มีจำนวน 35 ข้อ
ข้อ 4
ทุนจดทะเบียน จำนวน 2,709,904,800.00 บาท (สองพันเจ็ดร้อยเก้าล้านเก้าแสนสี่พันแปดร้อยบาท)
แบ่งออกเป็น 2,709,904,800 หุ้น (สองพันเจ็ดร้อยเก้าล้านเก้าแสนสี่พันแปดร้อยหุ้น)
มูลค่าหุ้นละ 1.00 บาท (หนึ่งบาท)
โดยแยกออกเป็น
หุ้นสามัญ 2,709,904,800 หุ้น (สองพันเจ็ดร้อยเก้าล้านเก้าแสนสี่พันแปดร้อยหุ้น)
หุ้นบุริมสิทธิ – หุ้น ( – )
ข้อ 5
ที่ตั้งสำนักงานใหญ่ จะตั้งอยู่ ณ จังหวัด กรุงเทพมหานคร
บริษัท ศรีไทยซุปเปอร์แวร์ จำกัด (มหาชน) ให้ความสำคัญและมุ่งมั่นในการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของพนักงาน บริษัทฯ จึงได้กำหนดมาตรการที่เหมาะสมสำหรับการรักษาความมั่นคงปลอดภัยของข้อมูลส่วนบุคคล รวมถึงแนวทางในการปฏิบัติตาม พ.ร.บ. คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 และกฎหมายอื่นๆที่เกี่ยวข้อง ทั้งนี้เพื่อให้พนักงานได้ทราบ และเข้าใจในวัตถุประสงค์ของบริษัทฯ ในการเก็บรวบรวม ประมวลผล ใช้ และเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล รวมถึงสิทธิต่างๆตามกฎหมายของพนักงาน โดยข้อกำหนดต่าง ๆ ตามเอกสารแนบ
บริษัท ศรีไทยซุปเปอร์แวร์ จำกัด (มหาชน)
ข้อมูลที่บริษัทฯ ได้รับ
บริษัทฯ ได้รับข้อมูลของผู้สมัครงานจากการกรอกใบสมัครงาน รวมถึงเอกสารประกอบอื่นๆ ที่ได้ยื่นให้แก่บริษัทฯ เพื่อพิจารณาการสมัครงาน อันได้แก่ ชื่อ นามสกุล ชื่อเล่น รูปถ่าย ที่อยู่ที่สามารถติดต่อได้ เบอร์โทรศัพท์ อีเมล หมายเลขประจำตัวประชาชน วันเดือนปีเกิด อายุ วุฒิการศึกษา ประวัติการทำงาน หรือข้อมูลใดๆที่ปรากฏในเอกสารประกอบการสมัครงาน ข้อมูลส่วนบุคคลของบุคคลอื่น เช่น ผู้ติดต่อกรณีฉุกเฉิน บุคคลอ้างอิง ซึ่งรวมถึงเบอร์โทรศัพท์/โทรศัพท์มือถือของบุคคลดังกล่าว เป็นต้น ทั้งนี้ในการให้ข้อมูลส่วนบุคคลของบุคคลที่สามแก่บริษัทฯ ผู้สมัครงานรับรองและรับประกันว่า ผู้สมัครงานมีอำนาจในการกระทำดังกล่าวและอนุญาตให้บริษัทฯ ใช้ข้อมูลส่วนบุคคลได้ตามหนังสือฉบับนี้ นอกจากนี้ผู้สมัครงานยังมีหน้าที่ในการแจ้งให้บุคคลเหล่านั้นทราบถึงเนื้อหาในหนังสือฉบับนี้และ/หรือขอความยินยอมจากบุคคลเหล่านั้น โดยบริษัทฯ จะเก็บในรูปแบบเอกสารและไฟล์ข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์
ในกรณีที่ผู้สมัครงานยื่นเอกสารที่มีข้อมูลส่วนบุคคลที่มีความอ่อนไหว เช่น เชื้อชาติ หมู่โลหิต ศาสนา อันเป็นข้อมูลที่ไม่จำเป็นต่อบริษัทฯ ที่จะเก็บรวบรวม ประมวลผล ใช้ และเปิดเผยข้อมูลตามวัตถุประสงค์ที่บริษัทฯ ได้แจ้ง ผู้สมัครงานสามารถปกปิดข้อมูลดังกล่าวโดยวิธีใดก็ได้ก่อนยื่นเอกสารให้บริษัทฯ กรณีที่ผู้สมัครงานไม่ได้ปกปิดข้อมูลดังกล่าว บริษัทฯ จะทำการปกปิดข้อมูลนั้นบนเอกสารที่ได้รับทันที และจะไม่ถือว่าบริษัทฯ ได้เก็บรวบรวม หรือใช้ในลักษณะใดๆต่อข้อมูลที่มีความอ่อนไหวของผู้สมัครงาน
บริษัทฯ เก็บรวบรวม ประมวลผล ใช้ และเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของผู้สมัครงานเพื่อวัตถุประสงค์ดังต่อไปนี้
ระยะเวลาในการเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคล
บริษัทฯ จะจัดเก็บข้อมูลส่วนบุคคลของผู้สมัครงานเป็นระยะเวลา 1 ปี นับตั้งแต่วันที่ได้รับข้อมูล หรือเมื่อสิ้นสุดขั้นตอนการสัมภาษณ์รอบสุดท้าย เว้นแต่กรณีที่ผู้สมัครงานผ่านการคัดเลือกเข้าทำงานเป็นพนักงานของบริษัทฯ บริษัทฯ จะเก็บข้อมูลส่วนบุคคลของผู้สมัครงานต่อไปในระยะเวลาที่จำเป็น เพื่อให้บรรลุวัตถุประสงค์ของบริษัทฯ
บริษัทฯ จะจัดให้มีระบบการตรวจสอบเพื่อดำเนินการลบ หรือทำลายข้อมูลส่วนบุคคลเมื่อพ้นกำหนดระยะเวลาการเก็บรักษา หรือที่ไม่เกี่ยวข้อง หรือเกินความจำเป็นตามวัตถุประสงค์ในการเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลนั้น
สิทธิของผู้สมัครงานในฐานะเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล ผู้สมัครงานสิทธิดังต่อไปนี้
การถอนความยินยอม
ความยินยอมที่ผู้สมัครงานให้ไว้เพื่อเก็บรวบรวม ประมวลผล ใช้ และเปิดเผยตามวัตถุประสงค์ดังกล่าวข้างต้นจะยังคงมีผลบังคับใช้จนกว่าผู้สมัครงานจะได้ถอนความยินยอมเป็นหนังสือแจ้งต่อบริษัทฯ หรือติดต่อ dpo@www.srithaisuperware.com ทั้งนี้ การถอนความยินยอมของผู้สมัครงาน จะไม่ส่งผลกระทบต่อการเก็บรวบรวม ประมวลผล ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล ที่ผู้สมัครงานได้เคยให้ความยินยอมไปแล้วก่อนหน้านั้น
ในกรณีที่บริษัทฯ มีการเก็บรวบรวม ประมวลผล ใช้ และเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลเพื่อดำเนินการอย่างอื่น นอกเหนือจากวัตถุประสงค์ตามที่ได้ระบุไว้ บริษัทฯ จะทำการแจ้งวัตถุประสงค์ใหม่ให้ผู้สมัครงานทราบ และขอความยินยอมจากผู้สมัครงานก่อน ตามรายละเอียดที่ได้แจ้งขอความยินยอม
ความปลอดภัยของข้อมูล
บริษัทฯ มีมาตราการควบคุมเพื่อปกป้องข้อมูลส่วนบุคคลของผู้สมัครงานจากการเข้าถึงโดยไม่ได้รับอนุญาต การเปลี่ยนแปลง การเปิดเผย และการใช้ที่ไม่ถูกต้อง บริษัทฯ จะติดตามเทคโนโลยีใหม่ๆ เพื่อปกป้องข้อมูลส่วนบุคคลอยู่เสมอ
ช่องทางการติดต่อ
กรณีที่ผู้สมัครงานต้องการใช้สิทธิในฐานะเจ้าของข้อมูล หรือร้องเรียนเกี่ยวกับการไม่ปฏิบัติตามกฎหมายว่าด้วยเรื่องการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล ท่านสามารถติดต่อบริษัทฯ ได้โดยตรงที่
บริษัท ศรีไทยซุปเปอร์แวร์ จำกัด (มหาชน)
15 ถนนสุขสวัสดิ์ ซอย 36 แขวงบางปะกอก เขตราษฎร์บูรณะ กรุงเทพมหานคร 10140
โทร 02 4270088 ต่อ 2203
อีเมล : dpo@www.srithaisuperware.com
บริษัท ศรีไทยซุปเปอร์แวร์ จำกัด (มหาชน) (“บริษัทฯ”) มีพันธกิจสำคัญในการปกป้องและเคารพความเป็นส่วนตัวของท่าน และปฏิบัติตามกฎหมายอย่างเคร่งครัด เพื่อให้มั่นใจว่าข้อมูลส่วนบุคคลของท่านได้ถูกเก็บรวบรวม ใช้ และเปิดเผยอย่างเป็นธรรมและเป็นไปตามกฎหมาย
นโยบายความเป็นส่วนตัวฉบับนี้ (“นโยบายความเป็นส่วนตัว”) แจ้งถึงประเภทของข้อมูลส่วนบุคคลที่บริษัทฯ ได้ทำการเก็บรวบรวม ใช้ และเปิดเผย รวมถึงสิทธิทางเลือกของท่านต่อข้อมูลส่วนบุคคล บริษัทฯ ยังแจ้งถึงมาตราการที่ได้ใช้เพื่อรักษาความปลอดภัยของข้อมูลส่วนบุคคล พร้อมแจ้งช่องทางการติดต่อให้แก่ท่านเกี่ยวกับการปฏิบัติต่อข้อมูลส่วนบุคคล และ สิทธิต่างๆ ของท่านตามกฎหมาย จากการที่ท่านเข้าร่วมการประชุมผู้ถือหุ้นของบริษัทฯ
คำนิยาม
ข้อมูลส่วนบุคคล หมายถึง ข้อมูลเกี่ยวกับบุคคลซึ่งให้สามารถระบุตัวบุคคลนั้นได้ ตามนโยบายฉบับนี้คือ ชื่อ นามสกุล ที่อยู่ เลขบัตรประจำตัวประชาชน วัน เดือน ปีเกิด เลขประจำตัวผู้ถือหุ้น จำนวนหุ้น เบอร์โทรศัพท์
ข้อมูลส่วนบุคคลที่มีความอ่อนไหว ได้แก่ เพศ สัญชาติ ศาสนา ภาพถ่ายหรือภาพเคลื่อนไหวจากการบันทึกวีดีโอภายในงาน ข้อมูลสุขภาพ ประวัติการเดินทางที่เกี่ยวข้องกับข้อมูลสุขภาพ (กรณีมีความจำเป็นภายใต้วัตถุประสงค์ของการคัดครองโรคของบุคคลที่เข้ามาเข้าร่วมการประชุม)
บริษัทฯ เก็บรวบรวมข้อมูลของท่านที่ได้ระบุไว้ข้างต้น เพื่อวัตถุประสงค์ดังต่อไปนี้
1.1 การปฏิบัติหน้าที่ตามกฎหมาย
เพื่อเรียก จัดให้มีการประชุมสามัญผู้ถือหุ้นของบริษัทฯ ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ว่าด้วยเรื่องหุ้นส่วนและบริษัท เพื่อรับรองสิทธิและการยืนยันตัวตนของท่าน การส่งเอกสารที่เกี่ยวข้อง เพื่อดำเนินการใดๆ เพื่อให้เป็นไปตามมติที่ประชุมในการประชุมผู้ถือหุ้นให้เป็นไปตามคำสั่งของหน่วยงานภาครัฐที่เกี่ยวข้อง รวมถึงการปฏิบัติตามกฎหมายอื่น เช่น พระราชบัญญัติบริษัทมหาชนจำกัด พ.ศ. 2535 พระราชบัญญัติหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ พ.ศ. 2535
1.2 ฐานประโยชน์โดยชอบธรรมด้วยกฎหมาย
1.2.1 เพื่อใช้จัดทำบันทึกรายงานการประชุมสามัญผู้ถือหุ้นของบริษัทฯ รวมถึงเพื่อการใดๆ ตามจำเป็นที่เกี่ยวข้อง อันเป็นประโยชน์อันชอบธรรมของบริษัทฯ โดยไม่เกินขอบเขตที่ท่านสามารถเข้าใจและคาดหมายได้อย่างสมเหตุสมผล
1.2.2 เพื่อปฏิบัติตามแนวทางคำสั่งของรัฐบาล และเพื่อให้บรรลุวัตถุประสงค์เกี่ยวกับประโยชน์ด้านการสาธารณสุขเพื่อการป้องกันโรคติดต่ออันตรายที่จะต้องคัดกรองความเสี่ยงในการแพร่ระบาดของโรค COVID-19
1.2.3 บริษัทฯ อาจมีการบันทึกภาพถ่าย และภาพเคลื่อนไหวของการประชุมสามัญผู้ถือหุ้น เพื่อใช้ในการรายงาน และการประชาสัมพันธ์การประชุมสามัญผู้ถือหุ้นทางสื่ออิเลคทรอนิกส์ และสิ่งพิมพ์ ซึ่งอาจปรากฏภาพของท่านที่เข้าร่วมประชุม ทั้งนี้ บริษัทฯ จะไม่ระบุรายละเอียดตัวบุคคลที่เข้าร่วมบนภาพถ่ายดังกล่าว
หมายเหตุ : ในกรณีที่ท่านยื่นเอกสารยืนยันตัวตนให้แก่บริษัทฯ อันได้แก่ สำเนาบัตรประชาชน หรือเอกสารอื่นๆ ที่อาจปรากฏซึ่งข้อมูลอ่อนไหวของท่าน เช่น เชื้อชาติ หมู่โลหิต ศาสนา อันเป็นข้อมูลที่ไม่จำเป็นต่อบริษัทฯ ที่จะเก็บรวบรวม ใช้ สำหรับการประชุมสามัญผู้ถือหุ้น ท่านสามารถปกปิดข้อมูลอ่อนไหวดังกล่าวโดยวิธีใดก็ได้ก่อนนำส่งเอกสารให้บริษัทฯ กรณีที่ท่านไม่ได้ปกปิดข้อมูลอ่อนไหวดังกล่าว บริษัทฯ จะทำการปกปิดข้อมูลอ่อนไหวบนเอกสารที่ได้รับทันที และจะไม่ถือว่าบริษัทฯ ได้เก็บ รวบรวม หรือใช้ในลักษณะใดๆต่อข้อมูลอ่อนไหวของท่าน
บริษัทฯ ได้รับข้อมูลส่วนบุคคลจากท่านโดยตรง โดยผ่านการลงทะเบียนเข้าร่วมการประชุม และหนังสือมอบฉันทะ (ถ้ามี) แบบสอบถามเกี่ยวกับสุขภาพ สำเนาบัตรประชาชนหรือสำเนาเอกสารยืนยันตัวตนอื่นที่ท่านยื่นประกอบการลงทะเบียนเข้าร่วมประชุม และ จากศูนย์รับฝากหลักทรัพย์ (ประเทศไทย) จำกัด
บริษัทฯ จะเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลของท่านในระยะเวลาเท่าที่จำเป็นอย่างสมเหตุสมผล โดยจำกัดเฉพาะเพื่อให้บรรลุตามวัตถุประสงค์ที่บริษัทฯ เก็บข้อมูลนั้น ทั้งนี้ บริษัทฯ อาจเก็บข้อมูลของท่านไว้เป็นระยะเวลานานขึ้นในกรณีจำเป็นที่ต้องปฏิบัติตามกฎหมาย อย่างไรก็ตามบริษัทฯ จะใช้ข้อมูลของท่านเพื่อวัตถุประสงค์ที่ได้แจ้งไว้ข้างต้นเท่านั้น
ภายใต้บทบัญญัติแห่งกฎหมายและข้อยกเว้นตามกฎหมายที่เกี่ยวข้อง ท่านมีสิทธิในการขอเข้าถึง และ/หรือขอรับสำเนาการโอนย้าย แก้ไข ลบ ทำลาย หรือทำให้ข้อมูลกลายเป็นข้อมูลที่ไม่ระบุตัวตนในส่วนข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน ทั้งนี้ บริษัทฯ อาจไม่สามารถให้บริการ หรืออำนวยความสะดวกให้แก่ท่านได้อย่างเต็มสิทธิด้วยเหตุจากการขอให้ลบ หรือทำลายข้อมูลดังกล่าวได้
หากท่านไม่ต้องการให้บริษัทเผยแพร่ภาพถ่าย หรือวีดีโอที่มีท่านปรากฏอยู่ ท่านสามารถแจ้งต่อเจ้าหน้าที่ของบริษัทฯ ในวันเข้าร่วมประชุม หรือแจ้งมายังช่องทางการติดต่อด้านล่าง เพื่อขอให้ระงับไม่เผยแพร่ภาพ หรือวีดีโอที่มีท่านปรากฏอยู่ได้
ทั้งนี้ท่านไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายใดๆในการดำเนินการตามสิทธิข้างต้น โดยบริษัทฯ จะพิจารณาและแจ้งผลการพิจารณาตามคำร้องของท่านภายใน 14 วัน นับตั้งแต่วันที่บริษัทฯ ได้รับคำร้องดังกล่าว
5.ความปลอดภัยของข้อมูล
บริษัทฯ มีมาตราการควบคุมเพื่อปกป้องข้อมูลส่วนบุคคลของท่านจากการเข้าถึงโดยไม่ได้รับอนุญาต การเปลี่ยนแปลง การเปิดเผย และการใช้ที่ไม่ถูกต้อง บริษัทฯ จะติดตามเทคโนโลยีใหม่ๆ เพื่อปกป้องข้อมูลส่วนบุคคลของท่านอยู่เสมอ อย่างไรก็ตาม แม้ว่าบริษัทฯ จะพยายามอย่างเต็มที่ในการปกป้องข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน แต่อาจมีความไม่สมบูรณ์แบบบางประการเกิดขึ้นได้ ซึ่งเป็นปกติทั่วไปของมาตราการการรักษาความปลอดภัย
กรณีที่ท่านต้องการใช้สิทธิในฐานะเจ้าของข้อมูล หรือร้องเรียนเกี่ยวกับการไม่ปฏิบัติตามกฎหมายว่าด้วยเรื่องการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล ท่านสามารถติดต่อบริษัทฯ ได้โดยตรงที่
บริษัท ศรีไทยซุปเปอร์แวร์ จำกัด (มหาชน)
15 ถนนสุขสวัสดิ์ ซอย 36 แขวงบางปะกอก เขตราษฎร์บูรณะ กรุงเทพมหานคร 10140
โทร 02 4270088 ต่อ 2203
อีเมล : dpo@www.srithaisuperware.com
บริษัท ศรีไทยซุปเปอร์แวร์ จำกัด (มหาชน) (“บริษัทฯ”) ได้ติดตั้งและใช้กล้องวงจรปิดเพื่อรักษาความมั่นคงปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของพนักงาน คู่ค้า ลูกค้า และผู้มาติดต่อ ซึ่งบริษัทฯออกประกาศความเป็นส่วนตัวฉบับนี้เพื่ออธิบายการเก็บ รวบรวม ใช้ และการเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านผ่านการใช้กล้องวงจรปิด ดังต่อไปนี้
ข้อมูลส่วนบุคคลที่บริษัทฯ เก็บรวบรวม
บริษัทฯ ติดตั้งกล้องวงจรปิดบริเวณจุดสำคัญต่างๆ ทั่วพื้นที่ภายในของบริษัทฯ เพื่อบันทึกภาพและวิดีโอของบุคคล รวมทั้งทรัพย์สินของบุคคลเหล่านั้น (เช่น กระเป๋า อุปกรณ์พกพา) ซึ่งเข้ามาในบริเวณพื้นที่ และอาจเก็บรวบรวมข้อมูลดังกล่าวของท่านไว้
วัตถุประสงค์ของการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน
บริษัทฯ เก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล เพื่อวัตถุประสงค์ดังต่อไปนี้
โดยบริษัทฯ อาศัยฐานทางกฎหมายในการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าวข้างต้น เพื่อป้องกันหรือระงับอันตรายต่อชีวิตและทรัพย์สิน อันเป็นการจำเป็นเพื่อประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมายของบริษัทฯ รวมถึงการปฏิบัติตามหน้าที่ที่กฎหมายกำหนด ซึ่งรวมถึงกฎหมายว่าด้วยความปลอดภัย ชีวอนามัย และสภาพแวดล้อมในการทำงาน
การเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล
บริษัทฯ อาจเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านต่อบุคคลที่สาม (รวมถึงผู้ให้บริการและพันธมิตรทางธุรกิจของบริษัทฯ) ในกรณีที่บริษัทฯ พิจารณาว่ามีความจำเป็นต้องเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลนั้นเพื่อวัตถุประสงค์ตามที่กำหนดไว้ในประกาศฉบับนี้ และอาจเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านต่อหน่วยงานที่มีหน้าที่บังคับใช้กฎหมายหากมีความจำเป็นเพื่อการปฏิบัติหน้าที่ตามกฎหมายของบริษัทฯ และเพื่อสนับสนุนหรือช่วยเหลือหน่วยงานดังกล่าว
ระยะเวลาจัดเก็บข้อมูลส่วนบุคคล
บริษัทฯ จะเก็บข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไว้เป็นระยะเวลา 5 เดือน ซึ่งเป็นระยะเวลาเท่าที่จำเป็น สมเหตุสมผล เพื่อให้บรรลุวัตถุประสงค์ตามที่ระบุในประกาศฉบับนี้ หรืออาจจัดเก็บข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเป็นระยะเวลายาวนานกว่าหากมีกรณีจำเป็นตามกฎหมายที่ใช้บังคับ หรือจำเป็นต้องเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไว้เพื่อการจัดการข้อพิพาทหรือกระบวนการทางกฎหมายซึ่งอาจเกิดขึ้น เมื่อหมดความจำเป็นหรือสิ้นสุดระยะเวลาดังกล่าวแล้ว บริษัทฯ จะลบ ทำลาย หรือทำให้เป็นข้อมูลที่ไม่สามารถระบุตัวตนได้ทันที
สิทธิในข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน
อย่างไรก็ดี บริษัทฯ ขอสงวนสิทธิในการพิจารณาข้อเรียกร้องการใช้สิทธิของท่าน ซึ่งบริษัทฯ อาจปฏิเสธสิทธิของท่าน โดยพิจารณาจากความจำเป็นของฐานในการเก็บ รวบรวม ใช้ และเปิดเผยข้อมูลโดยชอบด้วยกฎหมายของบริษัทฯ ตามที่ได้แจ้งไว้ข้างต้น
การติดต่อบริษัท
หากท่านมีความประสงค์ที่จะใช้สิทธิของท่านที่เกี่ยวข้องกับข้อมูลส่วนบุคคล หรือมีข้อสงสัย หรือ เรื่องร้องเรียนเกี่ยวกับข้อมูลส่วนบุคคลภายใต้ประกาศความเป็นส่วนตัวฉบับนี้ โปรดติดต่อเจ้าหน้าที่คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของบริษัทฯ ที่
บริษัท ศรีไทยซุปเปอร์แวร์ จำกัด (มหาชน)
15 ถนนสุขสวัสดิ์ ซอย 36 แขวงบางปะกอก เขตราษฎร์บูรณะ กรุงเทพมหานคร 10140
โทร 02 4270088 ต่อ 2203
อีเมล : dpo@www.srithaisuperware.com
*ประกาศความเป็นส่วนตัวฉบับนี้ ประกาศเมื่อวันที่ 30 เมษายน 2565
บริษัท ศรีไทยซุปเปอร์แวร์ จำกัด (มหาชน) มุ่งมั่นและให้ความสำคัญในการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน จากการเข้างานมหกรรมสินค้า ซึ่งบริษัทฯ ได้ทำการเก็บรวบรวมและใช้ข้อมูลส่วนบุคคล ดังนั้น บริษัทฯ จึงได้กำหนดมาตรการที่เหมาะสมสำหรับการรักษาความมั่นคงปลอดภัยของข้อมูลส่วนบุคคล รวมถึงแนวทางในการปฏิบัติตาม พ.ร.บ. คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล ทั้งนี้เพื่อให้ผู้เข้างานมหกรรมได้ทราบ และเข้าใจถึงวัตถุประสงค์ในการใช้ข้อมูลแล ะสิทธิตามกฎหมายดังนี้
ข้อมูลส่วนบุคคลที่บริษัทฯ เก็บรวบรวม
บริษัทฯ ได้เก็บข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเท่าที่จำเป็นตามวัตถุประสงค์ในการเก็บรวบรวม ประมวลผล ใช้ และ/ หรือ เปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล โดยได้จำแนกประเภทของข้อมูลส่วนบุคคลดังต่อไปนี้
วัตถุประสงค์และฐานในการประมวลผลข้อมูล
ฐานสัญญา และฐานประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมาย
ฐานประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมาย และฐานความยินยอม (กรณีเกี่ยวข้องกับข้อมูลอ่อนไหว)
สิทธิของท่านในฐานะเจ้าของข้อมูล
ภายใต้บทบัญญัติแห่งกฎหมายและข้อยกเว้นตามกฎหมายที่เกี่ยวข้อง ท่านมีสิทธิในการขอเข้าถึง ขอรับสำเนาการโอนย้าย แก้ไข ลบ ทำลาย จำกัดการประมวลผล ถอนความยินยอม หรือทำให้ข้อมูลกลายเป็นข้อมูลที่ไม่ระบุตัวตนในส่วนข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน ทั้งนี้ บริษัทฯ อาจไม่สามารถให้บริการ หรืออำนวยความสะดวกให้แก่ท่านได้อย่างเต็มสิทธิด้วยเหตุจากการขอให้ลบ หรือทำลายข้อมูลดังกล่าวได้
หากท่านไม่ต้องการให้บริษัทฯ เผยแพร่ภาพถ่าย หรือวีดีโอที่มีท่านปรากฏอยู่ ท่านสามารถแจ้งต่อเจ้าหน้าที่ของบริษัทฯ ในวันเข้างานมหกรรมสินค้า หรือแจ้งมายังช่องทางการติดต่อด้านล่าง เพื่อขอให้ระงับไม่เผยแพร่ภาพ หรือวีดีโอที่มีท่านปรากฏอยู่ได้
ทั้งนี้ ท่านไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายใดๆในการดำเนินการตามสิทธิข้างต้น โดยบริษัทฯ จะพิจารณาและแจ้งผลการพิจารณาตามคำร้องของท่านภายใน 14 วัน นับตั้งแต่วันที่บริษัทฯ ได้รับคำร้องดังกล่าว
การเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคล
บริษัทฯ จะเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลของท่านตามระยะเวลาที่จำเป็นเท่านั้น โดยระยะเวลาเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลอาจเปลี่ยนแปลงไปขึ้นอยู่กับวัตถุประสงค์ที่กำหนดในการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล นอกจากนี้ บริษัทฯ จะเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลเป็นระยะเวลาตามที่กฎหมายที่เกี่ยวข้องกำหนด (ถ้ามี) โดยคำนึงถึงอายุความตามกฎหมายสำหรับการดำเนินคดีที่อาจเกิดขึ้นจากหรือเกี่ยวข้องกับเอกสารหรือข้อมูลส่วนบุคคลที่บริษัทฯ เก็บรวบรวมไว้ในแต่ละรายการ โดยคำนึงถึงแนวปฏิบัติของบริษัทฯ และของภาคธุรกิจที่เกี่ยวข้องสำหรับข้อมูลส่วนบุคคลแต่ละประเภทเป็นสำคัญ
ช่องทางการติดต่อ
กรณีที่ท่านต้องการใช้สิทธิในฐานะเจ้าของข้อมูลเพื่อยื่นคำร้องขอดำเนินการตามสิทธิข้างต้น หรือร้องเรียนเกี่ยวกับการไม่ปฏิบัติตามกฎหมายว่าด้วยเรื่องการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล ท่านสามารถติดต่อบริษัทฯ ได้โดยตรงที่
บริษัท ศรีไทยซุปเปอร์แวร์ จำกัด (มหาชน)
15 ถนนสุขสวัสดิ์ ซอย 36 แขวงบางปะกอก เขตราษฎร์บูรณะ กรุงเทพมหานคร 10140
โทร 02 4270088 ต่อ 2203
อีเมล : dpo@www.srithaisuperware.com
*เอกสารแจ้งการประมวลผลข้อมูลฉบับนี้ ประกาศเมื่อวันที่ 30 เมษายน 2565
บริษัท ศรีไทยซุปเปอร์แวร์ จำกัด (มหาชน) มุ่งมั่นและให้ความสำคัญในการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน จากการเข้างานมหกรรมสินค้า ซึ่งบริษัทฯ ได้ทำการเก็บรวบรวมและใช้ข้อมูลส่วนบุคคล ดังนั้น บริษัทฯ จึงได้กำหนดมาตรการที่เหมาะสมสำหรับการรักษาความมั่นคงปลอดภัยของข้อมูลส่วนบุคคล รวมถึงแนวทางในการปฏิบัติตาม พ.ร.บ. คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล ทั้งนี้เพื่อให้ผู้เข้างานมหกรรมได้ทราบ และเข้าใจถึงวัตถุประสงค์ในการใช้ข้อมูลแล ะสิทธิตามกฎหมายดังนี้
ข้อมูลส่วนบุคคลที่บริษัทฯ เก็บรวบรวม
บริษัทฯ ได้เก็บข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเท่าที่จำเป็นตามวัตถุประสงค์ในการเก็บรวบรวม ประมวลผล ใช้ และ/ หรือ เปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล โดยได้จำแนกประเภทของข้อมูลส่วนบุคคลดังต่อไปนี้
วัตถุประสงค์และฐานในการประมวลผลข้อมูล
ฐานสัญญา และฐานประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมาย
ฐานประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมาย และฐานความยินยอม (กรณีเกี่ยวข้องกับข้อมูลอ่อนไหว)
สิทธิของท่านในฐานะเจ้าของข้อมูล
ภายใต้บทบัญญัติแห่งกฎหมายและข้อยกเว้นตามกฎหมายที่เกี่ยวข้อง ท่านมีสิทธิในการขอเข้าถึง ขอรับสำเนาการโอนย้าย แก้ไข ลบ ทำลาย จำกัดการประมวลผล ถอนความยินยอม หรือทำให้ข้อมูลกลายเป็นข้อมูลที่ไม่ระบุตัวตนในส่วนข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน ทั้งนี้ บริษัทฯ อาจไม่สามารถให้บริการ หรืออำนวยความสะดวกให้แก่ท่านได้อย่างเต็มสิทธิด้วยเหตุจากการขอให้ลบ หรือทำลายข้อมูลดังกล่าวได้
หากท่านไม่ต้องการให้บริษัทฯ เผยแพร่ภาพถ่าย หรือวีดีโอที่มีท่านปรากฏอยู่ ท่านสามารถแจ้งต่อเจ้าหน้าที่ของบริษัทฯ ในวันเข้างานมหกรรมสินค้า หรือแจ้งมายังช่องทางการติดต่อด้านล่าง เพื่อขอให้ระงับไม่เผยแพร่ภาพ หรือวีดีโอที่มีท่านปรากฏอยู่ได้
ทั้งนี้ ท่านไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายใดๆในการดำเนินการตามสิทธิข้างต้น โดยบริษัทฯ จะพิจารณาและแจ้งผลการพิจารณาตามคำร้องของท่านภายใน 14 วัน นับตั้งแต่วันที่บริษัทฯ ได้รับคำร้องดังกล่าว
การเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคล
บริษัทฯ จะเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลของท่านตามระยะเวลาที่จำเป็นเท่านั้น โดยระยะเวลาเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลอาจเปลี่ยนแปลงไปขึ้นอยู่กับวัตถุประสงค์ที่กำหนดในการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล นอกจากนี้ บริษัทฯ จะเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลเป็นระยะเวลาตามที่กฎหมายที่เกี่ยวข้องกำหนด (ถ้ามี) โดยคำนึงถึงอายุความตามกฎหมายสำหรับการดำเนินคดีที่อาจเกิดขึ้นจากหรือเกี่ยวข้องกับเอกสารหรือข้อมูลส่วนบุคคลที่บริษัทฯ เก็บรวบรวมไว้ในแต่ละรายการ โดยคำนึงถึงแนวปฏิบัติของบริษัทฯ และของภาคธุรกิจที่เกี่ยวข้องสำหรับข้อมูลส่วนบุคคลแต่ละประเภทเป็นสำคัญ
ช่องทางการติดต่อ
กรณีที่ท่านต้องการใช้สิทธิในฐานะเจ้าของข้อมูลเพื่อยื่นคำร้องขอดำเนินการตามสิทธิข้างต้น หรือร้องเรียนเกี่ยวกับการไม่ปฏิบัติตามกฎหมายว่าด้วยเรื่องการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล ท่านสามารถติดต่อบริษัทฯ ได้โดยตรงที่
บริษัท ศรีไทยซุปเปอร์แวร์ จำกัด (มหาชน)
15 ถนนสุขสวัสดิ์ ซอย 36 แขวงบางปะกอก เขตราษฎร์บูรณะ กรุงเทพมหานคร 10140
โทร 02 4270088 ต่อ 2203
อีเมล : dpo@www.srithaisuperware.com
*ประกาศความเป็นส่วนตัวฉบับนี้ ประกาศเมื่อวันที่ 30 เมษายน 2565
แบบฟอร์มขอใช้สิทธิต่างๆ ตาม พรบ. คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 (ซึ่งขอให้อยู่ในหมวดหมู่เดียวกัน เพื่อให้เจ้าของข้อมูล เข้ามาดาวน์โหลดเอกสารและกรอก เพือยื่นคำร้องต่างๆของบริษัทฯ)
คำร้องขอใช้สิทธิในการเข้ำถึง/สำเนา/เปิดเผยการได้มาของข้อมูล
คำร้องขอใช้สิทธิในการถอนความยินยอม
คำร้องขอใหเ้ปิดเผยข้อมูลแก่หน่วยงานของรัฐ
คำร้องขอใช้สิทธิในการลบข้อมูล/ทำลาย/ทำให้ไม่สามารถระบุตัวตนได้
ข้อกฎหมายและสิทธิส่วนบุคคล
นโยบายเกี่ยวกับการใช้งาน Cookies
นโยบายการใช้คุกกี้นี้จะอธิบายถึงประเภท เหตุผล และลักษณะการใช้ คุกกี้บนเว็บไซค์นี้ รวมถึงวิธีการจัดการคุกกี้ตังนี้
คุกกี้ (Cookies) คืออะไร ?
คุกกี้ คือ ข้อมูลคอมพิวเตอร์ขนาเล็ก (text file) ที่จะถูกติตตั้ง หรือบันทึกลงบนคอมพิวเตอหรืออุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ของท่านเมื่อท่านเข้าชมเบไซค์ คุกกี้จะจดจำข้อมูลการใช้งานเว็บไซค์ของท่าน
ทั้งนี้ เราจะเรียกเทคโนโลยีอื่นที่ทำหน้าที่คล้ายคลึงกันว่าคุกกี้ด้วย
เราใช้ คุกกี้อย่างไรบ้าง ?
เราจะใช้คุกกี้เมื่อท่านได้เข้าเยี่ยมชมเว็บไซค์ของเรา โดยการใช้งานคุกกี้ของเราแบ่งออกตามลักษณะของการใช้งานได้ดังนี้
คุกกี้ที่จำเป็น (Strictly Necessary Cookies) คุกกี้ประเภฑนี้มีความจำเป็นต่อการทำงานของเว็บไซค์เพื่อให้เบซสามารถทำานด้เป็นปกติ มีความปลอดภัย และทำให้ท่านสามารถเข้าใช้เว็บไซต์ได้
เช่น การ เog in เข้าสู่เว็บไซต์ การยืนยันตัวตน ทั้งนี้ ท่านไม่สามารถปิตการใช้งานของคุกกี้ประเภทนี้ผ่านระบบของเว็บไซค์ของเราได้
คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์ (Analytic Cookies) คุกกี้ประเภทนี้จะเก็บข้อมูลการใช้งานเว็บไซค์ของท่าน เพื่อให้เราสามารถวัดผล ประเมิน ปรับปรุง และพัฒนาเนื้อหาสินค้/บริการและเว็บไซค์ของเราเพื่อ
เพิ่มประสบการณ์ที่ดีในการใช้ว็บซของท่าน ทั้งนี้ หากท่านไม่ยินยอมให้เราใช้คุกกี้ประเภทนี้ เราจะไม่สามารถวัตผล ประเมิน และพัฒนาเว็บไซต์ได้
คุกกี้เพื่อปรับเนื้อหาให้เข้ากับกลุ่มเป้าหมาย (Targeting Cookies) คุกกี้ประเภทนี้จะเก็บข้อมูลต่าง ๆ ซึ่งอาจรวมถึงข้อมูลส่วนบุคคลของท่านและสร้างโปรไฟล์เกี่ยวกับตัวท่าน เพื่อให้เราสามารถ
วิคราะห์และนำเสนอเนื้อหา สินค้า/บริการ และ/หรือ โฆษณาที่หมาะสมกับความสนใจของท่านได้ ทั้งนี้หากท่านไม่ยินยอมให้เราใช้ คุกกี้ประเภทนี้ ท่านอาจได้รับข้อมูลและโฆษณาทั่วไปที่ไม่ตรงกับ
ความสนใจของท่าน
การใช้คุกกี้โดยบุคคลที่สาม (Third-Party Cookies)
เว็บไซค์ของเรามีการใช้คุกดยบุคคลที่สาม ซึ่ลักษณะการใช้งานและการตั้งค่าจะเป็นไปตามคุกกี้ในข้อ 2 โดยท่านจะไม่สามารถเลือกตั้งค่าการใช้งานเฉพาะคุกกี้โดยบุคคลที่สามได้ในเว็บไซค์นี้
ทั้งนี้ เราไม่สามารถควบคุมการใช้ข้อมูลของบุคคลที่สามนั้นด้ ท่านสามารถตรวจสอบรายชื่อของบุคคลที่สาม นโยบายความเป็นส่วนตัว (Privacy Notice) และนโยบายการใช้คุกกี้ของบุคคลที่สาม ซึ่ง
แตกต่างจากเว็บไซค์ของเราได้ที่เว็บไซค์ของบุคคลที่สามนั้น ๆ
การจัดการคุกกี้
ท่านสามารถเลือกตั้งค่าคุกกี้แต่ละประเภท ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น Strictly Necessary Cookies) ได้โตยการตั้งค่าในเว็บบราวเซอร์ (web browser) เช่น ห้ามการติตตั้งคุกกี้ลงบนอุปกรณ์ของท่าน
ทั้งนี้ การปิดการใช้งานคุกกี้อาจส่งผลให้ท่านไม่สามารถใช้เว็บซต่าง ๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
เพื่อเป็นแนวทางสู่การพัฒนาอย่างยั่งยืน คณะกรรมการบริษัทฯ กำหนดช่องทางการแจ้งข้อร้องเรียนและข้อเสนอแนะ (Whistle Blower)
โดยเปิดโอกาสให้ผู้มีส่วนได้เสีย แสดง ความคิดเห็นอย่างอิสระและแจ้งเบาะแสการกระทำผิดกฎหมาย
โรงงานสุขสวัสดิ์ (สำนักงานใหญ่)
15 ถนนสุขสวัสดิ์ ซอย 36 แขวงบางปะกอก
เขตราษฎร์บูรณะ กรุงเทพฯ 10140
© 2024 Srithai Superware Public Company Limited. All Rights Reserved.